วิธีการดูแลรักษาสายไฮดรอลิค

6 วิธีการในการดูแลรักษาสายไฮดรอลิคให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

การบำรุงรักษาเชิงป้องกันถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรม จนมีคำกล่าวที่ว่า “การป้องกันดีกว่าการรักษา” เพราะเมื่อเราต้องรักษานั่นแสดงว่าเราต้องมีบางอย่างเสียหายไปแล้ว แต่ถ้าเราป้องกันได้ดีนั้นความหายเสียก็จะไม่เกิดขึ้น การป้องกันที่ดีในภาคอุตสาหกรรมคือการหมั่นตรวจตราอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะระบบท่อหรือสายไฮดรอลิค ประโยชน์จากการที่เราหมั่นตรวจตราการทำงานของระบบท่อหรือสายไฮดรอลิค หรือส่วนประกอบต่างๆ นั้นคือการสร้างความมั่นใจในการทำงานทั้งในด้านของผู้ผลิตที่จะมั่นใจว่าการทำงานของเราจะเป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในด้านความปลอดภัยด้วย อีกทั้งในการที่เราหมั่นตรวจสอบสายไฮดรอลิคหรืออุปกรณ์ของเครื่องจักรต่างๆ นั้น จะทำช่วยทำให้เราประหยัดงบประมาณในการซ่อมแซ่มเมื่อเกิดการเสียหายขนาดใหญ่ได้

วันนี้ Premier Hydraulic ขอนำเสนอ 6 วิธีในการดูแลรักษาสายไฮดรอลิค

1. หมั่นตรวจสอบด้วยสายตา
   การตรวจสอบสายไฮดรอลิคด้วยสายตาเป็นขั้นตอนที่ถือว่าง่ายที่สุดในการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพราะเป็นเพียงการใช้สายตาในการตรวจสอบเห็นสิ่งผิดปกติ ข้อควรระวังในการใช้สายตาตรวจนั้นคือการปล่อยให้ความคุ้นชินเกิดขึ้นระหว่างการเดินตรวจสอบ เพราะนั่นคือสาเหตุของความประมาทอย่างหนึ่ง ดังนั้น ในการตรวจสอบระบบท่ออ่อนนั้นควรเป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบและต้องมีความระมัดระวังด้วย
   
   การตรวจสอบระบบท่ออ่อนนั้น ควรตรวจตั้งแต่คุณภาพของสายไฮดรอลิคและข้อต่อตามจุดต่างด้วย ความผิดปกติของสายไฮดรอลิคที่ควรระมัดระวัง ได้แก่ แผลหรือร่องรอยบนสายไฮดรอลิค รอยร้าว รอยรั่วต่างๆ หรือรอยไหม้บนสายไฮดรอลิค สายไฮดรอลิคที่แข็งผิดปกติ การบิด การงอและส่วนที่แบนหรือบดของสายไฮดรอลิคด้วย รวมทั้งยังต้องสังเกตข้อต่อต่างๆ ด้วยว่ามีรอยรั่ว หรือแผลอะไรหรือไม่ หรือการเสื่อมสภาพของฝาครอบหรือข้อต่อต่างๆ ด้วย และเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติของสายไฮดรอลิคแล้ว พึงระลึกไว้อยู่เสมอว่าไม่ควรซ่อมแซม เนื่องจากความเสียหายและการเสื่อมสภาพของสายไฮดรอลิคอาจทำให้ความสามารถประสิทธิภาพของสายนั้นลดลงไป
   
   
2. การกำหนดอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิค
   พึงระลึกไว้อยู่เสมอว่าสายไฮดรอลิคนั้นมีอายุการใช้งานเสมอ อายุการใช้งานของ สายไฮดรอลิคแต่ละชนิดแต่ละประเภทและของแต่ละยี่ห้อนั้นมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน การจะทราบถึงอายุการใช้งานของสายไฮดรอลิคนั้น ต้องสอบถามจากผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ที่เราสั่งซื้อมา
   
   นอกจากนี้ยังควรสอบถามเกี่ยวกับการดูแลรักษา ข้อมูลสัญญาณบอกเหตุต่างๆ อาทิ เมื่อใช้สายไฮดรอลิคไป 2 ปี ลักษณะสายไฮดรอลิคจะมีลักษณะเหมือนเดิมหรือไม่ จะแข็งขึ้นหรืออ่อนกว่าเดิมหรือไม่อย่างไร และจะมีความเสี่ยงต่อการแต่หักหรือกัดกร่อนอะไรตรงไหนหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้เราขอแนะนำว่าควรทำการจดบันทึกทุกครั้งที่เราทำการตรวจสายไฮดรอลิคว่าลักษณะของสายไฮดรอลิคนั้นมีลักษณะอย่างไร ยังมีประสิทธิภาพหรือลักษณะที่ยังดีอยู่หรือไม่
   
   
3. ทดสอบการทำงาน
   ในการทำงานของสายไฮดรอลิคนั้นบางครั้งเราไม่ได้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นควรมีการทดสอบระบบท่ออ่อนแต่ละระบบโดยใช้งานที่แรงดันสูงสุด และตรวจหารอยรั่วหรือปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบนี้ ตรวจสอบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากระบบท่ออ่อนมีปัญหา เช่นการกระชากไฟฟ้า ความผิดปกติของเครื่องจักร เป็นต้น ในขณะที่ทำการทดสอบควรให้พนักงานที่ทำการทดสอบระบบนี้อยู่ในจุดที่มีความปลอดภัยมากที่สุดด้วย
   
   
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
   การนำข้อมูลที่เราได้จดบันทึกไว้ในขณะที่เราทำการตรวจตรานั้น มาเข้าโปรแกรมวิเคราะห์เพื่อหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ข้อมูลทั้งหมดนี้ช่วยให้บริษัทของคุณสามารถติดตามประสิทธิภาพระยะยาวของสายไฮดรอลิคหรือระบบท่ออ่อน และดูว่าระบบท่ออ่อนของคุณยังทำงานตามที่คาดไว้หรือไม่ การวิเคราะห์ข้อมูลยังช่วยให้บริษัทของคุณพิจารณาได้ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังสำหรับการออกแบบหรือระบบใหม่หรือไม่ อย่างไรด้วย
   
   
5. กำหนดเวลาเปลี่ยนอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
   แม้จะมีการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่ดีและการทำงานของระบบที่เหมาะสม ชิ้นส่วนของระบบท่อก็จะพังตามกาลเวลาและอายุการใช้งาน เช่น ซีลยางยืดจะเริ่มแข็งตัวหรือเกิดการสึกหรอ หรือเปราะเนื่องจากหมดอายุการใช้งานและการสัมผัสกับความร้อนและแรงกดบ่อยครั้ง การเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้ทุกครั้งที่ถอดสายยางออกจะช่วยให้ระบบโดยรวมอยู่ในสภาพดีตลอดเวลา
   
   
6. การเตรียมอะไหล่สำรอง
   ในการทำงานจริงอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้ ทำให้เรามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสายไฮดรอลิค เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้อาจจะต้องทำให้ต้องปิดการดำเนินงานไป หากเราไม่มีอะไหล่สำรองไว้ และอาจจะทำให้บริษัทเกิดคความเสียหายหรือเสียค่าใช้จ่าย ค่าปรับกับลูกค้าได้
   
   ดังนั้น การเตรียมสายไฮดรอลิคเป็นอะไหล่สำรองไว้ก็เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายของบริษัทของคุณได้ การประมาณที่จะเก็บสายไฮดรอลิคไว้ในคลังของเรานั้น ควรประมาณจากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่เราทำการจดบันทึกไว้ เพื่อเป็นการประหยัดในการจัดซื้อและการบริหารจัดการอะไหล่ในคลังที่เหมาะสมด้วย

สามารถดูสินค้าและสายไฮดรอลิคคุณภาพดีเยี่ยมประเภทต่างๆสนใจติดต่อได้ที่
873 Soi Sukhumvit 101/1 , Bangchak, Phrakhanong, Bangkok , Thailand 10260
Tel : 095-595-3645
Tel: +662 746 2212
Fax: +662 746 2215